ยน 7-8 ตอนที่ 3
ยอห์น บทที่ 8
8 1พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ
2เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อม

พระองค์ พระองค์ประทับนั่ง แล้วทรงเริ่มสั่งสอน
3บรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนำหญิงคนหนึ่งเข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง 4แล้วทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี 5ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหินหญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” 6เขาถามพระองค์เช่นนี้เพื่อจับผิดพระองค์ หวังจะหาเหตุกล่าวโทษพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดินa 7เมื่อคนเหล่านั้นยังทูลถามย้ำอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” 8แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป 9เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามลำพังกับหญิงคนนั้น ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม 10พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” 11หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก”
พระเยซูเจ้าทรงเป็นแสงสว่างส่องโลกb
12พระเยซูเจ้าตรัสกับประชาชนอีกว่า
“เราเป็นแสงสว่างส่องโลก
ผู้ที่ตามเรามา จะไม่เดินในความมืด
แต่จะมีแสงสว่างส่องชีวิต”
พระเยซูเจ้าทรงเป็นพยานให้ตนเอง
13ชาวฟาริสีกล่าวกับพระองค์ว่า “ท่านเป็นพยานให้กับตนเอง คำยืนยันเป็นพยานของท่านจึงไม่น่าเชื่อถือ” 14พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า
“แม้เราจะเป็นพยานให้ตนเอง
คำยืนยันเป็นพยานของเราก็น่าเชื่อถือ
เพราะเรารู้ว่า
เรามาจากไหน และกำลังจะไปไหน
แต่ท่านทั้งหลายไม่รู้ว่า
เรามาจากไหน และกำลังจะไปไหนc
15ท่านพิพากษาตามมาตรการของมนุษย์d
แต่เราไม่พิพากษาeผู้ใด
และถึงแม้ว่าเราพิพากษาผู้ใด
คำพิพากษาของเราก็น่าเชื่อถือ
เพราะเราไม่อยู่คนเดียว
แต่พระบิดาผู้ทรงส่งเรามานั้นทรงอยู่กับเราด้วย
17ในธรรมบัญญัติของท่านทั้งหลายมีเขียนไว้ว่า
‘คำยืนยันเป็นพยานของคนสองคนเป็นที่น่าเชื่อถือ’
18เราเป็นพยานให้ตนเอง
และพระบิดาผู้ทรงส่งเรามาทรงเป็นพยานให้เราด้วย”
19เขาเหล่านั้นจึงทูลถามพระองค์ว่า “พระบิดาของท่านอยู่ที่ใด” พระเยซูเจ้าตรัสว่า
“ท่านทั้งหลายไม่รู้จักทั้งเรา ทั้งพระบิดาของเรา
ถ้าท่านรู้จักเรา ท่านคงรู้จักพระบิดาของเราด้วย”
20พระเยซูเจ้าตรัสพระวาจานี้ในบริเวณที่วางของถวาย ขณะที่ทรงสั่งสอนอยู่ในพระวิหาร ไม่มีผู้ใดจับกุมพระองค์ เพราะเวลาของพระองค์ยังมาไม่ถึง
21พระเยซูเจ้าตรัสแก่เขาเหล่านั้นอีกว่า
“เราจากไปแล้วท่านทั้งหลายจะแสวงหาเรา
แต่ท่านจะตายเพราะบาปของท่านf
ที่ที่เราไปนั้น ท่านไปไม่ได้”
22ชาวยิวจึงพูดว่า ”เขาจะฆ่าตัวตายกระมัง จึงพูดว่า ที่ที่เราไปนั้น ท่านไปไม่ได้” 23พระเยซูเจ้าตรัสว่า
“ท่านทั้งหลายมาจากเบื้องล่าง
แต่เรามาจากเบื้องบน
ท่านเป็นของโลกนี้
แต่เรามิได้เป็นของโลกนี้
24 ดังนั้น เราบอกท่านว่า ท่านจะตายเพราะบาปของท่าน
ถ้าท่านไม่เชื่อว่าเราเป็นg
ท่านจะตายเพราะบาปของท่าน”
25เขาเหล่านั้นทูลถามพระองค์ว่า “ท่านเป็นใคร” พระองค์ตรัสตอบว่า
“เราเป็นดังที่เราได้บอกท่านไว้ตั้งแต่แรกhแล้ว
26เรายังมีอีกหลายเรื่องที่เราจะต้องพูดและพิพากษา
เกี่ยวกับท่าน
แต่พระองค์ผู้ทรงส่งเรามาทรงสัจจะ
สิ่งใดที่เราได้ยินมาจากพระองค์
เราก็บอกสิ่งนั้นให้โลกรู้”
27คนเหล่านั้นไม่เข้าใจว่า พระองค์กำลังตรัสกับเขาเรื่องพระบิดา 28พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาอีกว่า
“เมื่อใดที่ท่านยกบุตรแห่งมนุษย์ขึ้น
เมื่อนั้นท่านจะรู้ว่า เราเป็นi
และรู้ว่าเราไม่ทำอะไรตามใจตนเอง
แต่พูดอย่างที่พระบิดาทรงสั่งสอนเราไว้
29พระผู้ทรงส่งเรามาสถิตกับเรา
พระองค์ไม่ได้ทรงทอดทิ้งเราไว้ตามลำพัง
เพราะเราทำตามที่พระองค์พอพระทัยเสมอ”
30เมื่อพระองค์ตรัสดังนี้ หลายคนก็เชื่อในพระองค์
พระเยซูเจ้าและอับราฮัม
31พระเยซูเจ้าตรัสกับชาวยิวที่เชื่อในพระองค์ว่า
“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา
ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง
32ท่านจะรู้ความจริงj
และความจริงจะทำให้ท่านเป็นอิสระ”
33คนเหล่านั้นจึงตอบว่า “พวกเราเป็นเชื้อสายของอับราฮัม และไม่เคยเป็นทาสของใคร ท่านพูดได้อย่างไรว่า ‘ท่านทั้งหลายจะเป็นอิสระ’” 34พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า
“เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
ทุกคนที่ทำบาปก็เป็นทาสของบาปk
35ทาสย่อมไม่พำนักอยู่ในบ้านตลอดไป
แต่บุตรพำนักอยู่ตลอดไป
36ดังนั้น ถ้าพระบุตรทำให้ท่านเป็นอิสระ
ท่านก็จะเป็นอิสระอย่างแท้จริง
37เรารู้ว่าท่านทั้งหลายเป็นเชื้อสายของอับราฮัม
แต่ท่านพยายามจะฆ่าเรา
เพราะวาจาของเราไม่ซึมซาบเข้าไปในท่าน
38เราบอกสิ่งที่เราได้เห็นเมื่อเราอยู่เฉพาะพระพักตร์พระบิดา
ท่านทั้งหลายก็ทำตามที่ท่านได้ยินจากบิดาของท่านด้วย”
39คนเหล่านั้นตอบพระองค์ว่า “บิดาของพวกเราคืออับราฮัม” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า
“ถ้าท่านเป็นบุตรของอับราฮัม
ท่านจงทำกิจการของอับราฮัมเถิดl
40แต่บัดนี้ ท่านกำลังพยายามจะฆ่าเรา
ซึ่งเป็นคนบอกความจริงที่เราได้ยินมาจากพระเจ้าให้ท่านฟัง
อับราฮัมไม่เคยทำเช่นนี้เลย
41ท่านไม่ทำกิจการของอับราฮัม แต่ทำกิจการของบิดาของท่าน”
คนเหล่านั้นเถียงว่า “เราไม่ใช่ลูกไม่มีพ่อmบิดาเดียวที่เรามีคือพระเจ้า” 42พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า
“ถ้าพระเจ้าทรงเป็นบิดาของท่านจริง ท่านคงจะรักเรา
เพราะเรามาจากพระเจ้า
เราไม่ได้มาตามใจตนเอง
แต่พระองค์ทรงส่งเรามา
43ทำไมท่านจึงไม่เข้าใจสิ่งที่เราพูด
เพราะท่านฟังถ้อยคำของเราไม่ได้n
44ท่านมาจากปีศาจซึ่งเป็นบิดาของท่าน
ท่านต้องการทำตามความปรารถนาของบิดาของท่าน
บิดาของท่านเป็นฆาตกรมาตั้งแต่แรกเริ่ม
เขาไม่ยืนหยัดoอยู่ในความจริง
เพราะความจริงไม่อยู่ในเขา
เมื่อเขาพูดเท็จ
เขาก็พูดตามธรรมชาติของเขา
เพราะเขาเป็นผู้พูดเท็จ และเป็นบิดาของการพูดเท็จp
45แต่เราพูดความจริง
และท่านไม่ยอมเชื่อเรา
46ท่านผู้ใดพิสูจน์ได้ว่าเราทำบาปq
ถ้าเราพูดความจริง ทำไมท่านจึงไม่เชื่อเรา
47ผู้ที่มาจากพระเจ้า
ย่อมฟังพระวาจาของพระเจ้า
เหตุที่ท่านไม่ฟัง
ก็เพราะท่านไม่ได้มาจากพระเจ้า”
48ชาวยิวตอบพระองค์ว่า “เราพูดถูกแล้วมิใช่หรือว่า ท่านเป็นชาวสะมาเรีย และถูกปีศาจสิง” พระเยซูเจ้าทรงตอบว่า
49“เราไม่ได้ถูกปีศาจสิง
แต่เราถวายพระเกียรติแด่พระบิดาของเรา
และท่านล่วงเกินเรา
50เราไม่แสวงหาเกียรติของเรา
มีผู้อื่นที่แสวงหาเกียรติของเรา และเป็นผู้ตัดสินอยู่แล้ว
51เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
ผู้ใดปฏิบัติตามวาจาของเรา
ผู้นั้นจะไม่พบความตายเลย”
52ชาวยิวพูดกับพระองค์ว่า “บัดนี้ เรารู้แล้วว่า ท่านถูกปีศาจสิง อับราฮัมตายไปแล้ว บรรดาประกาศกก็ตายไปแล้วเช่นเดียวกัน แต่ท่านพูดว่า ‘ถ้าผู้ใดปฏิบัติตามวาจาของเรา ผู้นั้นจะไม่ต้องลิ้มรสความตายเลย’ 53ท่านยิ่งใหญ่กว่าอับราฮัม บิดาของเรา ซึ่งตายไปแล้วหรือ บรรดาประกาศกก็ตายไปแล้วด้วย ท่านอวดอ้างว่าท่านเป็นใครกัน” 54พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า
“ถ้าเราให้เกียรติตนเอง
เกียรติของเราก็ไม่มีค่าอะไร
ผู้ที่ให้เกียรติเราคือพระบิดาของเรา
ผู้ที่ท่านพูดว่า ‘เป็นบิดาของพวกเรา’
55แต่ท่านไม่รู้จักพระองค์
เรารู้จักพระองค์
ถ้าเราจะพูดว่า ‘เราไม่รู้จักพระองค์’
เราก็เป็นคนพูดเท็จเหมือนกับท่าน
แต่เรารู้จักพระองค์ และปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์
56อับราฮัม บิดาของท่านได้ยินดี
ที่จะเห็นวันของเราr
เขาได้เห็น และได้ยินดีแล้ว”s
57ชาวยิวจึงค้านว่า “ท่านอายุยังไม่ถึงห้าสิบปี ได้เห็นอับราฮัมแล้วหรือ” 58พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า
“เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
ก่อนอับราฮัมจะเกิด เราเป็น”
59คนเหล่านั้นจึงหยิบก้อนหินขึ้นจะขว้างพระองค์t แต่พระเยซูเจ้าเสด็จเลี่ยงออกไปจากพระวิหาร