วันพุธ สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์
บทเพลงของผู้รับใช้ เพลงที่สาม วันพุธหรือวันที่สามในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ ลงตัวมากๆ ครับ เราอ่านพระคัมภีร์นี้กันเลยครับ... เลข 3 คือเลขที่หมายถึงขั้นสูงสุด Superlative วันนี้เรามาถึงวันพุธ หรือวันที่สาม มาอ่านเพลงที่สามในเพลงของผู้รับใช้ เตือนว่า พรุ่งนี้ เริ่มตรีวารปัสกานะครับ...

อสย 50:4-9a…..เพลงบทที่สามของผู้รับใช้พระยาห์เวห์

4พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ข้าพเจ้ามีลิ้น
เหมือนลิ้นของศิษย์ที่พระองค์ทรงสอน
เพื่อข้าพเจ้าจะได้รู้จักพูดจาให้กำลังใจแก่ผู้เหน็ดเหนื่อย
ทุกๆเช้า พระองค์ทรงปลุกข้าพเจ้า
ทรงปลุกหูข้าพเจ้าให้ฟังเหมือนศิษย์ที่พระองค์ทรงสอน

5พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดหูให้ข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าก็ไม่ต่อต้าน ไม่หันหลังหนีไป

6ข้าพเจ้าหันหลังให้แก่ผู้โบยตีข้าพเจ้า
และหันแก้มให้แก่ผู้ที่ดึงเคราข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่ซ่อนหน้าแก่ผู้สบประมาทและถ่มน้ำลายรด

7พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยข้าพเจ้า
ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่ต้องละอาย
ข้าพเจ้าทำหน้าของข้าพเจ้าให้ด้านเหมือนหิน
ข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าจะไม่อับอาย

8พระองค์ผู้ทรงแก้ต่างให้ข้าพเจ้าทรงอยู่ใกล้ข้าพเจ้า ใครจะสู้คดีกับข้าพเจ้า
เราจงยืนขึ้นเผชิญหน้ากันเถิด
ใครจะกล่าวหาข้าพเจ้า ก็จงเข้ามาใกล้ข้าพเจ้าเถิด

9ดูซิ พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยข้าพเจ้า
ใครจะกล่าวโทษข้าพเจ้าเล่า

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• สามวันนี้เราได้ฟังบทเพลงของผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์
1. เพลงที่หนึ่งวันจันทร์
2. เพลงที่สองวันอังคาร
3. เพลงที่สามวันพุธ

• และมีอีกเพลงจากอิสยาห์ คือเพลงของผู้รับใช้เพลงที่สี่ จะอ่านในวันศุกร์สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ทุกๆปีเหมือนกันตลอดไป
• ทั้งหมดนี้จำเป็นต้องอ่านทุกปีเลยครับ เพราะว่าเป็นการทบทวนความเป็นจริงหรือชีวิตของพระคริสตเจ้าผู้รับใช้ของพระเจ้าที่ครบครันสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งแน่นอนความหมายของผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์นั้น จะต้องมาพบกับความสมบูรณ์ในพระเยซูคริสตเจ้า
• พระคริสตเจ้า... “พระองค์เป็นผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ เพื่อความรอดของมนุษย์ ทรงรับใช้ด้วยความรักจนถึงที่สุด และทรงรับใช้จนถึงความตายเป็นความตายบนไม้กางเขน....”
• พี่น้องที่รัก พ่ออยากให้การฉลองปัสกา ตรีวารปัสกาของเราปีนี้เด่นชัดกว่าทุกปี
• พ่ออยากเห็นภาพวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์เป็นภาพที่งดงามเมื่อเราได้ฟังเรื่องพระทรมาน และภาวนา และที่สุด เราเทิดทูนกางเขนอย่างงดงาม เมื่อพระสงฆ์ประกาศร้องพลางชูแสดงไม้กางเขนนั้นว่า “นี่คือไม้กางเขน ที่พระผู้ไถ่โลก ได้ตรึงแขวนอยู่....”
• แล้วในการประกาศแสดงกางเขนของพระคริสตเจ้าในพิธีกรรมนั้น ... ทั้งสามครั้งเรากราบลงนมัสการพร้อมกัน พระสงฆ์สามครั้งร้อง เราร้องสามครั้งตอบรับ และภาพที่งดงามคือ ทุกคนจะคุกเข่าเข้าไปจูบพระบาท เข้าไปนมัสการกางเขน...
• พ่อไม่อยากให้เป็นเพียงพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ แต่อยากเชิญชวนทุกท่านให้ไตร่ตรองถึงพระองค์ “ผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ ตามที่ประกาศกอิสยาห์ได้เขียนเพลงแห่งผู้รับใช้ให้เราได้ฟังในพระคัมภีร์”
• ครับ บทอ่านและบทเทศน์ของพ่อของวันจันทร์ อังคาร และพุธ ในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์นี้

1. พ่อขอเชิญให้เราอ่านพระคัมภีร์ของทั้งสามวันอย่างต่อเนื่องจะได้ไหม
2. พ่อขอให้เราอ่านบทเพลงของผู้รับใช้อย่างดี ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพุธ และวันศุกร์ในพิธีกรรมบถอ่านที่หนึ่งของวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งนี้เพื่อจะได้เห็นภาพของผู้รับใช้ของพระเจ้า และไปจบกับวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ในพิธีกรรมนมัสการกางเขน...
3. พ่ออยากให้เราทาบรอยการเป็นผู้รับใช้ของพระเยซูลงในชีวิตเรา
4. อยากของร้องอย่างพิเศษให้พวกเรา พระสงฆ์ นักบวช คริสตชนทุกคนได้ทาบรอยแห่งการเป็นผู้รับใช้ รอยแห่งพระแบบฉบับการเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าลงในชีวิตเราจริงๆ นะครับ

• เมื่อพวกเราเข้าไปนมัสการกางเขน กราบไม้กางเขนด้วยศรัทธาต่อพระธรรมล้ำลึกแห่งความรักที่พระเจ้าทรงรักเราถึงเพียงนี้ การนมัสการในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ปีนี้พ่อเชื่อว่าจะต้องไม่ธรรมดาอย่างที่เคยๆ แต่ทว่า

o เพราะเราได้เตรียมและพร้อมจะเป็นผู้รับใช้เหมือนกับพระองค์ ในการรับใช้เพื่อนพี่น้อง การรัก เอาใจใส่ และ
o เพราะเราพร้อมจะดูแล รับใช้ ช่วยเหลือ และยอมมอบน้ำใจของตน สละใจตนเพื่อรักและรับใช้กันให้มากขึ้น
o พ่ออยากเห็นสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนแปลงชีวิตคริสตชนจริงๆ ให้ดีขึ้นเรื่อยๆทุกปี
o พ่อคิดว่าปีนี้เรามาอ่านเพลงของผู้รับใช้อย่างดีๆ อ่านและฟังหลายๆรอบ
o และเตรียมตัวให้ “ได้สัมผัสกับพระคริสตเจ้าผู้ทรงรักเราถึงเพียงนี้” (Sic Nos Amantem ทรงรักเราถึงเพียงนี” คือ
o ขอให้เราได้ “จุ่มตัวของเราจุ่มจิตวิญญาณของเรา” หรือ “ประทับใจและหยั่งรากลึกในเพลงของผู้รับใช้” โดยให้เพลงของผู้รับใช้ซึ่งหมายถึงพระเยซูเจ้านั้น เป็นจริงในชีวิตเรา...ให้เป็นจริงในกิจการ ในคำพูด และชีวิตที่แสนดีของเรา
พี่น้องที่รักครับ โลกปัจจุบันต้องการผู้รับใช้ทุกด้านอย่างยิ่งครับ และจะเป็นใครถ้าไม่ใช่พวกเราที่ศรัทธาในพระเยซูผู้รับใช้ต้นแบบที่ยอมรับใช้เราจนถึงความตายด้วยความรักของพระองค์ โลกและสังคมปัจจุบันต้องผู้รับใช้หลายรูปแบบครับ แล้วถ้าไม่ใช่พวกเราแล้วจะเป็นใครที่เป็นผู้รับใช้เช่นนี้....
1. ผู้รับใช้ความจริง
2. ผู้รับใช้ความยุติธรรม
3. ผู้รับใช้ความรัก
4. ผู้รับใช้ความหวัง
5. ผู้รับใช้แสงสว่าง ไม่ใช่รับใช้ความมืดที่ดูว่าสว่างเสียเหลือเกิน
6. ผู้รับใช้คนที่ถูกกระทำหรือเป็นเหยื่อของสังคม
7. ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ ไม่โกง ไม่คอรัปชัน หรือโกงกินบ้านเมือง ไม่โลภ ไม่เห็นแก่ตัว แต่เห็นแก่ความดีส่วนรวมจริงๆ (Common Good)
8. ผู้รับใช้ความดี และปกป้องคนจน คนด้อยโอกาส คนเสียโอกาส และน่าจะต้องรับใช้เพื่อขจัดคนที่ฉวยโอกาสและคอรัปชันด้วย และในข้อนี้ พระสันตะปาปาฟรังซิสเรียกร้องเราอย่างมากในปีนี้ไป ในการให้ความสำคัญกับคนยากจนเป็นพิเศษ... ดู Evangelii Gaudium “ความยินดีแห่งพระวรสาร”

o “การเลือกอยู่ข้างคนจนเป็นอันดับแรก”
o เรื่องนี้ต้องเป็นเทววิทยาชีวิตของพระศาสนจักรมากกว่าเป็นเพียงความคิดด้านสังคม (นั่นหมายถึงต้องเป็นชีวิตจิตใจของพระศาสนจักรเลย เป็นจริงๆ)
o พระสันตะปาปาจึงต้องการ “พระศาสนจักรที่ยากจน และเพื่อคนจากจน” เพราะคนจนและความยากจนมีบทสอนเรามากเหลือเกิน (EG 198)
o ปัญหาความยากจนหยั่งรากลึก ดังนั้นไม่ใช่เพียงแต่จะแก้หรือพบทางออกได้ง่ายๆ และเรารู้และยอมรับว่าไม่มีสูตรสำเร็จที่จะใช้เพื่อปัญหาระดับโลกในเรื่องความยากจน (EG 202)
o พระสันตะปาปาฟรังซิสเน้นสอนว่า พระองค์เองต้องการพระศาสนจักรที่บอบช้ำ บาดเจ็บ และมอมแมมจริงๆ เพราะพระศาสนจักรคือเราทุกคนได้กล้าก้าวออกไปสู่ผู้คนบนถนน มากกว่าพระศาสนจักรที่ใส่ใจแต่การเป็นของตนเอง สลวนกับเรื่องการเป็นศูนย์กลางเท่านั้น และที่สุดก็จบเห่ลงเพราะการถูกตอกตรึงติดอยู่กับระบบเครือข่ายของความหลงใหลได้ปลื้มอยู่กับความถูกต้อง ความถูกขั้นตอน และการดำเนินงานบริหารจัดการเท่านั้น

• พี่น้องที่รัก พ่อขอให้เราเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าด้วยกัน รับใช้พระวาจา ประกาศพระวาจา และประกาศความจริง และดำเนินชีวิตพิชิตความเท็จและเสริมสร้างความจริงเสมอไป...
• โลกเราอ่อนแอมากเพราะขาดความจริง ขาดผู้รับใช้ความรักและความดี โลกและสังคมเป็นช่องทางของคนมีอำนาจ คนร่ำรวย คนมีตำแหน่งหน้าที่ที่เอารัดเอาเปรียบ ทำอะไรผิดก็หนีความผิดได้ เงินซื้อกฎหมายได้ โชคคีที่ประเทศของเรายังมีคนดีอีกแน่นอน มีศาลสถิตยุติธรรมประเภทจะมาทำเงินหล่นเป็นล้านไว้ในศาลก็ไม่มีความหมาย ขอบคุณพระเจ้าที่เรายังมีอำนาจความยุติธรรม และต้องมุ่งทำให้อำนาจความยุติธรรมนี้บริสุทธ์ไร้คนมลทินอยู่เสมอ เพื่อพิทักษ์ตัดสินอย่างยุติธรรมและงดงามเสมอ
• เจ้าพวกพระเท็จเทียม หรือพวกผีน่ารักที่หลอกลวงให้ลุ่มหลงคือกระแสโลกกระแสรวยที่หลอกหลอนในศาสนาให้ดอกไม้ธรรมดาดาวเรืองที่โรยตามเวลาแห่งชีวิตและความงามที่เป็นธรรมชาติ ลวงหลอกให้เป็นดาวรวยโลกสวยฉวยใส่ไปบูชาจนว่าคนขายดอกดาวเรืองเท่านั้นที่ได้รวย... แย่จังกับความหลวงและสร้างเรื่องเปลื่องศรัทธา ทำให้คนมากมายโลภมาก และมานั่งกราบไว้บูชาศาสนาก็เพราะโลภเข้าไปอีก...ไปกันใหญ่... สังคมคิดว่าการมีความสุขคือการได้มีข้าวของเครื่องใช้และวัตถุมากมายที่ยึดติด และปรนเปรอตนเองให้พอใจอยู่กับสิ่งเหล่านั้น แต่อันที่จริง มนุษย์กลับตกเป็นทาสโดยไม่รู้ตัวเลย

o เราเคยอยู่โดยไม่มีเครื่องมือสื่อสารใดๆ แต่ปัจจุบัน เราขาดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ เรายอมทุ่มหามาให้ได้ ดูและ รัก หวงแหน บ่อยครั้งรักมือถือ รถยนต์ กระเป๋า ของใช้ ยิ่งกว่าครอบครัว และเพื่อนมนุษย์...

• ความเท็จเทียมดูน่ารักและชวนให้อยากได้เสมอครับ...

o ดังนั้น ปัสกาปีนี้พ่อเรียกร้องให้เราได้เป็นผู้รับใช้ตามแบบพระเยซูด้วยกันนะครับ คือ รับใช้พระเจ้าเที่ยงแท้ รับใช้ความจริงจนเป็นหลักประกันของความหวัง...
o และให้เราได้กล้าละทิ้งความเท็จเทียมจากชีวิตเรา ละเลิกสิ่งเทียมพระเจ้าออกไปจากชีวิตเรา เพราะสิ่งเทียมพระมันเหมือนสิ่งเทียมอาวุธ มันเหมือนมาก เหมือนมากจนแยกยากจริงๆ
o ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ สุขสันต์สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตครับ...