“การตื่นเฝ้าคืนแห่งปัสกา” พ่อไม่มีคำเทศน์ครับวันนี้ เพราะบทอ่านมากเหลือเกิน มีถึง 9 บท เจ็ดบทจากพันธสัญญาเดิม และสองบทจากพันธสัญญาใหม่ พ่อเพียงแต่อยากกล่าวถึงพิธีกรรม เครื่องหมายบางอย่างที่เรากระทำในค่ำคืนวันนี้... เพราะพิธีกรรมมีความร่ำรวยทางพระวาจาและเครื่องหมายมากเหลือเกิน พ่ออยากเริ่มแบบนี้นะครับ

• “การเสกไฟ ไฟที่จุดขึ้นใหม่” การก่อกองไฟและเสกไฟ ความหมายคือการทำลายความมืดมนของชีวิต การทำลายความตายให้สูญสิ้น เพราะพระคริสตเจ้าได้เป็นแสงไฟนิรันดรไม่มีมอดดับสำหรับชีวิตของเรา
o ชีวิตของเราคริสตชน ต้องเป็นแสงสว่างใหม่ในท่ามกลางความมืดของโลก ของกระแสโลก ของสังคม การเมือง เศรษฐกิจ และความอยุติธรรม
o โลกของเราในปัจจุบันนั้นช่างมืดมนเหลือเกินในด้านศีลธรรมและความประพฤติ ความอ่อนแอของมนุษย์ที่ยอมให้กับกระแสโลก จนตกเป็นเหยื่อของพระเจ้าเท็จเทียมที่เรียกว่า “เงินตรา และความโลภ หลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความหลงตนเอง”
o พ่ออยากให้เราคริสตชนในค่ำคืนตื่นเฝ้าแห่งปัสกานี้ ให้เราได้รับไฟที่ร้อนรุกด้วยความรักแท้จริง ความรักยิ่งใหญ่ แสงสว่างและไฟที่จุดขึ้นใหม่ของพระคริสตเจ้า แสงสว่างที่จะขจัดทำลายความมืดให้สิ้นสูญไป...
o ขอให้เราได้เป็นแสงสว่างใหม่ขอพระคริสตเจ้า ฟื้นฟูชีวิตของเราทุกคนนะครับ

• “เทียนปัสกา” เทียนปัสกาแทนพระคริสตเจ้า องค์ปฐมและอวสาน ทรงเป็นอัลฟาและโอเมกา ทรงเป็นเจ้าของกาลเวลาและศตวรรษทั้งสิ้น....
o ขอให้พระองค์ พระคริสตเจ้าผู้ทรงรักเรา พระเจ้าองค์ความรักที่สุดได้ปกครองชีวิตของเราตลอดไป
o ให้พระคริสตเจ้า ผู้ทรงได้รับชัยชนะเหนือบาปและความตาย ได้ทรงประทับอยู่ในชีวิตของเราตลอดไป
o จงจุดเทียนแห่งชัยชนะเดินติดตามพระคริสตเจ้า ต่อไฟจากเทียนปัสกา คือต่อไฟที่เราเคยได้รับในศีลล้างบาป เพื่อทำลายหรือทำให้ความมืดของบาปคือความตายต้องอ่อนกำลังและสูญหายไป
o จงเข้าขวนแห่เทียนชัยของชีวิต คือ พระคริสตผู้ทรงคืนพระชนม์ จงเดินติดตามเดินตามเทียนปัสกา “พระคริสตเจ้าองค์ความสว่างของชาวเรา” และ “ขอบพระคุณพระองค์” (Lumen Christi…. และตอบรับ Deo Gratias)
o จงมองดูเทียนปัสกาที่กำลังหลอมละลายตนเอง เพื่อให้ความสว่าง เครื่องหมายแห่งพระคริสต์ผู้ทรงยอมพลีพระชนม์ เทียนหลอมละลายตนเองเพื่อเป็นแสงสว่าง
o ดังนั้น เราจงพร้อมจะถ่อมตน หลอมละลายตัวตน เพื่อเป็นความดี เป็นความรัก เสียสละเพื่อพี่น้องทุกคนเสมอไป

• “การประกาศสมโภชปัสกา” คือบทเพลงสมโภช บทเพลงแห่งชัยชนะของพระคริสตเจ้าเหนือความตาย เหนือบาปของอาดัม บาปของอาดัมกลับทำให้เรามีบุญได้รับพระคริสตเจ้า (Felix Culpa) อ่าน เฟลิกซ์ คุลปา แปลว่า บาปที่มีบุญหรือโชคดี ใช่อาดัมมนุษย์คนแรกได้ทำบาป แต่เราโชคดีที่มีพระคริสตเจ้าอาดัมใหม่นิรันดรมาชดเชยบาปของเราและของมนุษย์ทุกคน

o พ่อขอให้เราตั้งใจฟังการประกาศสมโภชปัสการ สรรเสริญพระคริสตเจ้า และ
o ให้ชีวิตของเราเป็นบทเพลงสมโภชแห่งความสุขสำหรับทุกคนเสมอนะครับ

• “บทอ่าน 7 บทจากพันธสัญญาเดิม...”

o การนั่งฟัง คือ การรอคอยยาวนาน เริ่มจากการสร้าง เพราะเรานั่งฟังเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งเป็นแผนการแห่งความรักของพระเจ้าตลอดประวัติศาสตร์แห่งความรอด...
o บทอ่านทั้งเจ็ดทำให้เราเห็นความซื่อสัตย์ของพระเจ้า ความซื่อสัตย์ต่อพระสัญญาของพระเจ้า...
o ขอให้เราได้เป็นผู้ที่พร้อมจะรอคอยพระเจ้า และรอคอยพระองค์ในเพื่อนพี่น้องทุกคน โดยเฉพาะในบรรดาคนยากไร้ รอคอยทุกคนด้วยความหวัง
o รอคอยที่จะรัก
o รอคอยที่จะให้อภัย และสร้างสรรค์ความดีแก่กันและกัน
o อย่าหมดความหวังกับผลกระทบของกระแสโลก... จงรอคอยด้วยความหวังและความเพียร... เพราะพระสันตะปาปาฟรังซิสย้ำสอนเราใน Evangelii Gaudium “ความยินดีแห่งพระวรสาร”
o พระสันตะปาปาเตือนเรา เตือนคริสตชนอย่างตรงๆ โดยทรงต่อต้านท่าทีที่ยอมแพ้ของพระศาสนจักรต่อการวิกฤตที่ท้าทาย (EG 84)
o และทรงเร่งรัดคริสตชน เราพระศาสนจักรต้องเป็นเครื่องหมายแห่งความหวังให้จงได้ อย่าอ่อนกำลัง อย่ายอมแพ้ ( EG 86)
o ที่สำคัญที่สุด เราพระศาสนจักรจำเป็นต้องนำการปฏิรูปความอ่อนโยนของพระศาสนจักรสุดกำลัง (EG 88)

• “การขับร้องเพลงพระสิริรุ่งโรจน์” เพื่อประกาศการสิ้นสุดการรอคอย โดยการได้ฟังเรื่องราวจากบทอ่านทั้งเจ็ดบท หรือแม้บางงที่จะเลือกบางบทก็ตาม แต่เป็นการสิ้นสุดพันธสัญญาเดิม

o การจุดเทียนบทแท่นบูชา ตีระฆัง ความชื่นชม การรอคอยสิ้นสุด บัดนี้ปัสกา พันธสัญญาใหม่มาถึงแล้ว ปัสกา มาถึงแล้ว
o จงชื่นชมยินดี และเปิดหัวใจรับการกลับคืนชีพ
o อย่าให้ชีวิตองเราต้องจมอยู่ในบาป และอยู่เหมือนคนที่อยู่ในบาป ราคะตัณหาหรือความตายเลย
o จงลุกขึ้นขับร้องสิริรุ่งโรจน์สรรเสริญพระเจ้าเถิด

• “บทอ่านจากพันธสัญญาใหม่ และร้องอัลเลลูยา”

o หลังจากเงียบงันของคำร้อง “อัลเลลูยา” มากว่าสี่สิบวันตลอดมหาพรตจนถึงวันนี้
o บัดนี้ จงขับร้องรับกันอย่างสง่าสามครั้ง สรรเสริญพระเจ้า
o ชีวิตเราต้องสรรเสริญพระเจ้าตลอดไป สูงสุด ตลอดไป สรรเสริญพระองค์เถิด

• “บทอ่านจากพระวรสาร” เล่าเรื่องพระคูหาว่างเปล่า

o ชีวิตของเรา ต้องไม่มุ่งหาหรือแสวงหาความตาย แต่มุ่งชีวิต
o ขอให้เราให้ความสำคัญกับชีวิต ชีวิตทุกชีวิตมีค่าเสมอ
o ให้เรารักชีวิต รักพระคริสต์ผู้ประทานชีวิตใหม่...
o ให้เราดูแลรักษาชีวิต และอย่าได้ทำลายชีวิตเลย โดยเฉพาะชีวิตของบรรดาเด็กที่บริสุทธิ์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา และให้เราให้ความสำคัญกับชีวิตที่พี่น้องทีอ่อนแอและด้อยโอกาสเป็นพิเศษด้วย พระสันตะปาปาฟรังซิสย้ำเตือนเราในคำสอนว่า “เราต้องให้ความสนใจอย่างพิเศษกับ บรรดาสมาชิกผู้อ่อนแอที่สุดของสังคม…

1. คนไร้บ้าน
2. คนติดยา
3. ผู้อพยพลี้ภัย
4. คนพื้นเมืองดังเดิม
5. คนสูงอายุที่โดดเดี่ยวและถูกทอดทิ้งซึ่งมีจำนวนมาก
6. ผู้อพยพย้ายถิ่น
7. พระสันตะปาปาเตือนให้เราต้องเปิดใจรับให้มากที่สุด (EG 210)

o “เหยื่อของการค้ามนุษย์ที่ก่อให้เกิด “ทาส” ในรูปแบบใหม่” เครือข่ายฆาตกรรมเหล่านี้ก่อตัวเกิดขึ้นในสังคมอย่างเงียบๆ และคนจำนวนมากมือเปื้อนเลือดเพราะเข้าไปมีส่วนร่วม “กระทำ” (211)
o คนที่ยากไร้ยกกำลังสอง คือ บรรดาสตรีที่ตกอยู่ในสภาพที่ถูกกระทำ ถูกใช้อย่างโหดร้ายทารุณกรรมและรุนแรง (212)
o พระศาสนจักรปรารถนาจะใส่ใจอย่างพิเศษ ด้วยความรักพิเศษเจาะจง คือ ทารกที่ถูกทำแท้ง พวกเขาไม่สามารถป้องกันตัวเลย พวกเขาบริสุทธิ์ที่สุดในท่ามกลางพวกเราทุกคน (213) พวกเขาเป็นมนุษย์มีศักดิ์ศรี ห้ามลดทอนเด็ดขาด
o พระศาสนจักรจะต้องไม่เปลี่ยนจุดยืนต่อปัญหาเหล่านี้ ต้องไม่พยายามที่จะแก้ปัญหาโดยลดทอนหรือยอมแพ้ให้กับเรื่องคุณค่าชีวิตมนุษย์เด็ดขาด (214)

• “เสกน้ำล้างบาป และเสกน้ำเสก และการโปรดศีลล้างบาป” เทียนปัสกาคือชีวิตพระที่จุ่มลงในน้ำประทานชีวิต

o ขอให้ชีวิตของเราทุกคน พร้อมกับพี่น้องผู้รับศีลล้างบาปในค่ำคืนนี้ ในสังฆมณทลกรุงเทพฯของเรามีจำนวนนับร้อยๆคนทุกปี ในค่ำคืนนี้ก็มีนับร้อยๆ คน ที่เตรียมตัวมาหนึ่งปี จนถึงวันนี้ที่รับศีลล้างบาป
o ขอให้เราด้วยได้จุ่มตัวในน้ำแห่งชีวิต พร้อมกับพวกเขา รื้อฟื้นการรับศีลล้างบาปของเรา
o จงได้มีชีวิตพระท่วมท้นชีวิตเรา โดยเจริญชีวิตในสังคมเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสชีวิตพระในชีวิตเราด้วยเทอญ
o ขอพระเจ้าชำระล้างบาปของเรา และประทานความสดชื่นให้กับชีวิตคริสตชนของเราเสมอไป และอย่าลืม ทำให้ครอบครัว ทุกคนรอบข้าง สังคม ได้รับความฉ่ำเย็นสดชื่อเพราะชีวิตคริสตชนของเรานะครับ
o ขอให้ผู้รับศีลล้างบาปในค่ำคืนนี้... ได้เป็นลูกที่ดีของพระตลอดไป

• “ศีลมหาสนิท” คือ ปังแห่งปัสกา พระกายของพระเยซู พระองค์มอบให้เรา ขอให้เรารับด้วยความรัก และเป็นชีวิตที่สนิทกับพี่น้องทุกคนในความรักเสมอไป....

• “ไข่ปัสกา” ไม่ใช่พิธีกรรม แต่มีความหมายดี คือชีวิตใหม่ การให้ชีวิต การให้เกิดชีวิต

o ขอให้เราทุกนได้รับชีวิต และส่งเสริมชีวิต
o แต่สำหรับพี่น้องที่ขาดชีวิตชีวา หรืออยู่อย่างไร้ชีวิต ขอให้ได้มีโอกาสมีความสุขที่สุดที่มีชีวิต มีค่าที่สุดที่มีชีวิต เพราะพระคริสตเจ้าประทานชีวิตใหม่ให้เราด้วยเทอญ

พี่น้องที่รัก เท่านี้แหละครับที่พ่ออยากจะแบ่งปันคุณค่าจากพิธีกรรมที่เราจะได้ร่วมในค่ำวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ในคืนตื่นเฝ้าฉลองปัสกา พิธีกรรมค่ำวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ต้องไม่เป็นเพียงพิธีศักดิ์สิทธิ์เพียงในโบสถ์แต่ต้องนำชีวิตของเราไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ แสนดี เพราะมีพลังแห่งปัสกาด้วยนะครับ
ขอกล่าวดังๆ... เต็มหัวใจแด่ทุกท่าน “Happy EASTER” ครับ “Halleluiah” ขอส่งความเชื่อ ความรัก และความหวังแห่งปัสกาแด่ทุกท่านด้วยความรักครับ

พระวรสารสำหรับค่ำคืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ปี ...

มก 16:1-7

1เมื่อวันสับบาโตล่วงไปแล้ว มารีย์ชาวมักดาลา มารีย์มารดาของยากอบ และนางสะโลเม ซื้อเครื่องหอมเพื่อชโลมพระศพของพระเยซูเจ้า 2เช้าตรู่ของวันต้นสัปดาห์ เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นแล้วสตรีทั้งสามคนไปยังพระคูหา 3และกล่าวแก่กันว่า “ใครจะกลิ้งก้อนหินออกจากทางเข้าพระคูหาให้เรา” 4แต่เมื่อมองไป ก็เห็นว่าก้อนหินนั้นถูกกลิ้งออกไปแล้ว หินก้อนนั้นใหญ่โตมาก 5ครั้นเข้าไปภายในพระคูหา สตรีทั้งสามคนเห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมเสื้อยาวสีขาวนั่งอยู่ด้านขวามือ ก็ตกตะลึง 6ชายหนุ่มผู้นั้นกล่าวกับสตรีทั้งสามคนว่า “อย่ากลัวไปเลย ท่านกำลังมองหาพระเยซู ชาวนาซาเร็ธ ผู้ถูกตรึงกางเขน พระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว พระองค์มิได้ประทับอยู่ที่นี่ สถานที่นี้คือสถานที่ที่เขาได้วางพระศพไว้ 7จงไปแจ้งบรรดาศิษย์และเปโตรให้รู้ว่า “พระองค์เสด็จล่วงหน้าท่านทั้งหลายไปในแคว้นกาลิลีแล้ว ท่านจะเห็นพระองค์ที่นั่น ดังที่ทรงบอกท่านไว้”