สำหรับคริสตชนคาทอลิกหลายคนแล้ว คำว่า “การประกาศข่าวดี” อาจชวนให้นึกถึงภาพของคริสตชนที่เคร่งในศาสนาที่ไปเคาะประตูบ้านและสอบถามต่างๆ นาๆ แต่เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ได้ใช้คำว่า “การประกาศข่าวดีใหม่” สิ่งที่พระองค์ทรงต้องการจะสื่อถึงบางอย่างนั้นมีความหมายที่แตกต่างไปมาก : ประการแรก การประการข่าวดีใหม่คือการเชื้อเชิญคริสตชนคาทอลิกให้ฟื้นฟูความเชื่อของตน โดยเริ่มจากภายในตัวของเราเองแต่ละคน ฟื้นฟูจนกระทั่งเราพร้อมที่จะแบ่งปันความเชื่อของเราให้กับผู้อื่น ในลักษณะที่เป็นการเชื้อเชิญแทนที่จะเป็นลักษณะคุกคามหรือบุกรุก
ทำไมจึงจำเป็นในปัจจุบัน
ในประเทศที่พัฒนาระดับต้นๆ ของโลก เช่นประเทศในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ ได้รับการประกาศมานานแล้ว – มีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากมาย สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ได้ถูกสร้างและมีไว้เพื่อทำให้ชีวิตมีความสะดวกสบายและง่ายขึ้น แต่ความก้าวหน้านั้นก็ไม่ได้ทำให้เรามีความสุข ในสังคมทางตะวันตกหลายๆ แห่งมีการผลักดันมากขึ้นเพื่อให้พระเยซูคริสตเจ้าออกจากพื้นที่สาธารณะ ซึ่งทำให้ความเชื่อนั้นดูเหมือนจะไม่มีความจำเป็นสำหรับชีวิตประจำวัน
บางครั้งมันไม่ง่ายนักที่เราจะมองออกว่าสังคมของเรานั้นได้นำเราให้ออกห่างจากหลักการและอุดมการณ์ของคริสตชนได้อย่างไร เราถูกโอบล้อมด้วยบทความต่างๆ ในทางโลกที่บอกกับเราว่า เราสามารถสร้างความจริงของตัวเราแต่ละคนได้ เราสามารถมีชีวิตจิตโดยที่ไม่ต้องนับถือศาสนาใดเลยก็ได้ และเรายังสามารถทำอะไรก็ได้ที่เราต้องการ เพราะเราไม่ได้ทำร้ายใคร เราบอกว่าพฤติกรรมที่หยาบคายนั้นเป็นที่ยอมรับและให้ความบันเทิงใจ อีกทั้งบอกว่าเงินทองและทรัพย์สมบัติต่างๆ จะทำให้เรามีความสุขด้วย
เรียกกลับไปสู่ความจริง
ทั้งหมดนี้ ตามที่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ นำเราไปสู่ “ความยากจนภายใน” – ชีวิตที่เต็มไปด้วยภาระงาน แต่ไร้ความหมาย กิจวัตรที่น่าเบื่อและไม่มีความสุข พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เรามาเพื่อให้แกะมีชีวิต และมีชีวิตอย่างสมบูรณ์” (ยน. 10:10) พระเจ้าทรงรอคอยที่จะเติมเต็มเราด้วยความหมายและความหวัง นี่คือจุดประสงค์ของการประกาศข่าวดีใหม่
“วิกฤตที่เราดำเนินชีวิตโดยการปฏิบัติต่อเครื่องหมายแห่งการปฏิเสธพระเจ้าออกจากชีวิตของผู้คน ความเฉยเมยต่อความเชื่อของคริสตชนหรือแม้แต่ความตั้งใจที่จะดูถูกเหยียดหยามชีวิตสาธารณะ”
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ มองเห็นว่า ชีวิตของเรานั้นควรถึงเวลาที่จะต้องฟื้นฟู อีกทั้งพระสมณสาสน์ของพระองค์เป็นส่วนหนึ่งของการมองโลกในแง่ดีและความหวัง ผ่านทางประวัติศาสตร์พระศาสนจักร ช่วงเวลาที่ยากลำบากมักจะตามมาด้วยการฟื้นฟูขึ้นใหม่ในดวงใจของมนุษย์ทั้งชายและหญิง สิ่งนี้ไม่ใช่โครงการใหญ่หรือคำขวัญแฟนซี แต่เกิดจากธรรมล้ำลึกแห่งพระหรรทานและพลังขององค์พระจิตเจ้า
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ได้ก่อตั้งสภาพระสังฆราชเพื่อพิจารณาถึงการประกาศข่าวดีใหม่เมื่อไม่นานมานี้ พระองค์ทรงตระหนักดีว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้นจะต้องเริ่มจากในระดับท้องถิ่นซึ่งเริ่มด้วยสิ่งเล็กๆ เสียก่อน เหมือนเมล็ดมัสตาร์ดที่มีขนาดเล็ก แต่ต่อมากลับมีขนาดโตกว่าต้นผักอื่นๆ พระสันตะปาปาเบเนดิกต์มองเห็นว่า เราแต่ละคนสามารถบรรลุถึงความสำเร็จในสิ่งต่างๆ ที่ยิ่งใหญ่ได้ด้วยการเริ่มกระทำในสิ่งเล็กๆ ก่อน
เริ่มต้นที่ใจของเราก่อน
เ ริ่มด้วยการกระทำสิ่งเล็กๆ ที่เราต้องทำคือมองลึกลงไปในหัวใจของตัวเราเอง การประกาศข่าวดีใหม่จะเริ่มต้นได้เมื่อเรามองถึงความสัมพันธ์ของตัวเราเองกับพระเจ้า และกับพระศาสนจักรของพระองค์ เราต้องการเวลาในการสวดภาวนามากขึ้นไหม หรือเราต้องการเป็นศิษย์ยุคใหม่ไหม เราต้องเปิดใจเพื่อให้พระจิตเจ้าได้ทำงานในตัวเราและในวัฒนธรรมของเรา เราต้องตระหนักว่าเรากำลังฟังพระสุรเสียงของพระเจ้าซึ่งเราอาจถูกเรียกเพื่อให้เปลี่ยนทางเดินในชีวิตของเราก็เป็นได้
การฟื้นฟูความเชื่อของเราเป็นข้อผูกมัด หมายความว่า เราต้องกำหนดเวลาเพื่ออ่าน ภาวนา ศึกษา และรำพึง นั่นหมายความว่า เราต้องตั้งคำถามกับข่าวสารที่เราได้ยินจากสังคมโลก และนำมาเปรียบเทียบกับความจริงจากข้อความในพระวรสาร
การฟื้นฟูความเชื่อของเราจะนำเราไปสู่การมีบทบาทมากขึ้นในด้านชีวิตฝ่ายจิตในชุมชนวัดของเรา เราจะเข้มแข็งขึ้นได้โดยอาศัยพระหรรษทานแห่งศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และเราจะพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเราเปลี่ยนไปเมื่อเราให้ความสำคัญกับพระเจ้าเป็นอันดับแรก
แบ่งปันความเชื่อของเรา
การฟื้นฟูความเชื่อของเราจะช่วยเติมเต็มเราให้มีความกระตือรือร้นใหม่ เราจะตระหนักว่าเราถูกเรียกเพื่อให้แบ่งปันข่าวดีให้กับผู้อื่น เราไม่ต้องกังวลถึงสิ่งที่เราจะทำหรือจะพูด เราต้องดำเนินชีวิตคริสตชนอย่างแท้จริง แล้วพระจิตเจ้าจะทรงทำงานผ่านเราเพื่อไปสัมผัสชีวิตของผู้อื่น
การประกาศข่าวดีใหม่นั้นยังรวมถึงการใช้เครื่องมือสื่อสารที่เป็นรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสังคมออนไลน์และสื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ เพื่อการเผยแผ่พระวาจาของพระเจ้า พระเยซูคริสตเจ้าทรงเป็นองค์เดียวเสมอ ทั้งอดีต ปัจจุบันและตลอดไป บรรดามิชชันนารีของพระศาสนจักรจึงมองหาวิธีที่จะใช้นวัตกรรมต่างๆ ที่ทันสมัยมารับใช้พระเจ้า
สุดท้าย การประกาศข่าวดีใหม่ยังต้องต่อสู้กับคำถามของมนุษย์ที่เก่าแก่และลึกซึ้งที่สุดที่ยังคงมีอยู่ เช่น ความหมายของความทุกข์ยาก เราอาจจะพบว่าสมาชิกในครอบครัว มิตรสหาย เพื่อนบ้าน และผู้ร่วมงานของเราสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวเรา พวกเขาอาจจะเล่าถึงปัญหาต่างๆ ของพวกเขาให้เราฟัง และอาจยอมรับว่าพวกเขากำลังแสวงหาความหมายและจุดประสงค์ที่แท้จริงสำหรับชีวิตของพวกเขาอยู่ เราสามารถยืนยันได้ว่าสันติสุขที่แท้จริงนั้นมาจากการดำเนินชีวิตเป็นหนึ่งเดียวกับพระวรสาร
เปลี่ยนแปลงโลก
ความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนั้นดูเหมือนจะเกินความสามารถของเรา แต่ด้วยการฟื้นฟูความเชื่อ เราเริ่มเห็นทางเล็กๆ ที่สามารถทำให้โลกของเราเป็นสถานที่ที่ดีขึ้นได้ เราอาจพบว่าเรามีพระพรและความสามารถที่เราจะแบ่งปันกับผู้อื่นได้ เราอาจจะรู้สึกว่าต้องช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาส เราอาจจะค้นพบความกล้าหาญในการที่จะปฏิเสธสิ่งต่างๆ ที่ผิดและยืนหยัดในความถูกต้องและความดีงาม เราอาจเริ่มเห็นตัวเองเป็นดั่งมิชชันนารีสมัยใหม่ที่นำข่าวดีของพระเยซูคริสตเจ้าเข้ามาในเวลาที่เราพูดและปฏิบัติ
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงเตือนเราว่า การเป็นคาทอลิกนั้น “ไม่ใช่เสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่แบบส่วนตัวหรือเฉพาะในโอกาสพิเศษเท่านั้น แต่เป็นบางอย่างที่ดำเนินชีวิตและครอบคลุมทั้งหมด รวมถึงความสามารถในการซึมซับสิ่งที่ดีในยุคปัจจุบัน พระองค์ยอมรับว่าการประกาศข่าวดีใหม่นั้นเป็น “การสวนกระแสสังคม” แต่พระองค์ก็รับประกันกับพวกเราว่านั่นเป็นหนทางที่เราควรเดินตาม
เตรียมความพร้อม
นี่คือวิธีง่ายๆ ที่เราสามารถจะเป็นส่วนหนึ่งของการประกาศข่าวดีใหม่ได้ ดังนี้
กำหนดเวลาที่แน่นอนเพื่อจะเสริมสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้า
จัดให้มีการศึกษาผู้ใหญ่ในเขตวัด
หาวิธีวางแผนสำหรับทีมประกาศพระวรสารประจำวัด
ถ้าวัดของคุณไม่มีทีมประกาศพระวรสาร ให้หาวิธีที่จะเริ่มสร้างทีม
เสนอความคิด เมื่อคุณมาร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ
แบ่งปันให้ผู้อื่นฟังถึงวิธีที่พระเจ้าได้ช่วยเหลือคุณ ในช่วงเวลาที่คุณมีความสุขหรือความทุกข์
เชิญชวนคนที่ห่างวัดให้เข้ามาร่วมกิจกรรมกับคุณ
ให้คนอื่นได้รับรู้ถึงเหตุผลที่คุณยังยึดมั่นในความเชื่อคาทอลิกของคุณ
ศิลปะแห่งการดำเนินชีวิต
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ตรัสกับเราว่าการประกาศข่าวดีใหม่เป็นการแสดงออกอย่างง่ายๆ ให้ผู้อื่นได้เห็นถึง “ศิลปะแห่งการดำเนินชีวิต” ดังเช่นการเป็นคริสตชนคาทอลิกที่แท้จริงในโลกปัจจุบันนี้ พระองค์ทรงแนะนำถึงองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ประการ คือ
1. การกลับใจ – พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ตรัสอธิบายว่า การกลับใจหมายถึงการที่เราตั้งคำถามถึงแนวทางที่เรามีชีวิตอยู่ในขณะนี้โดยให้พระเจ้าทรงเผยแสดงความจริงแก่เราและเปลี่ยนแนวทางการดำเนินชีวิตของเรา เราจะเริ่มมองเห็นโลกได้โดยผ่านทางพระเนตรของพระเจ้า เราไม่ต้องปรับตัวโดยการปฏิบัติที่ในสิ่งที่ผู้อื่นปฏิบัติ แต่เราอยู่ในระดับที่สูงกว่ามาตรฐานทั่วไปด้วยความไว้วางใจในมิตรภาพ การให้อภัยและความรักของพระเจ้า การกลับใจเป็นสาระสำคัญของการประกาศข่าวดีใหม่ เพราะว่าสิ่งนี้ได้ยินยอมให้เรามีชีวิตดังเช่นคริสตชนคาทอลิก อีกทั้งยังสามารถแสดงถึง “ศิลปะแห่งการดำเนินชีวิต” ให้แก่ผู้อื่นด้วย
2. พระอาณาจักรของพระเจ้า – พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ตรัสกับเราว่า การประกาศถึงพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งของการประกาศข่าวดีใหม่ โดยพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นความจริงพื้นฐานถึงการดำรงอยู่ของพระเจ้าในฐานะพระบิดา พระบุตรและพระจิต เราเชื่อว่าพระเจ้าทรงมีบทบาทในโลกและในชีวิตของพวกเรา แต่เพื่อที่จะช่วยคนอื่นๆ ให้ได้รู้จักพระเจ้า เราต้องช่วยสอนให้พวกเขารู้จักสวดภาวนา ต้องสนับสนุนพวกเขาในการฟังองค์พระจิตเจ้าตรัสกับตนในความเงียบ และต้องเชิญชวนพวกเขาให้ได้สัมผัสถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าผ่านทางพิธีบูชาขอบพระคุณ พระวาจาจากพระคัมภีร์ และผ่านทางการเคลื่อนไหวทำสิ่งต่างๆ ในทุกวันของชีวิต พระเจ้าทรงเริ่มเผยแสดงให้เห็นถึงการประทับอยู่ของพระองค์โดยผ่านทางประสบการณ์เท่านั้น
3. พระเยซูคริสตเจ้า – พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ทรงย้ำเตือนเราว่า เราสามารถหยั่งรู้ถึงความครบครันของพระเจ้าได้โดยผ่านทางพระเยซูคริสตเจ้าเท่านั้น พระเยซูเจ้าเป็นมากกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป พระองค์เสด็จลงมาบังเกิดจากพระเจ้าและมอบตนเองเพื่อเป็นหนทางในการนำไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า และหนทางที่ให้ความหมายของความทุกข์ยากในชีวิตของเรา นั่นเป็นหนทางที่มอบจุดประสงค์ให้กับชีวิตของเรา พระเยซูเจ้ายังประทานศีลศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยเติมเต็มพระพรที่เราต้องใช้ในการเดินทางในชีวิตของเราต่อไป พระเยซูคริสตเจ้าสถิตอยู่ในหัวใจของการประกาศข่าวดี จุดมุ่งหมายของเราคือเพื่อนำพระเยซูคริสตเจ้าไปสู่ทุกแง่มุมของชีวิตเรา
4. ชีวิตนิรันดร – พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ทรงเน้นย้ำถึงส่วนที่สำคัญของการประกาศข่าวดีใหม่ นั่นคือ การช่วยเหลือผู้อื่นให้เข้าใจว่าจุดมุ่งหมายสูงสุดของเราคือ ชีวิตนิรันดรกับพระเจ้า เราทุกคนจะถูกตัดสินด้วยหนทางที่เราเคยอยู่บนโลกนั้นเป็นอย่างไร ความไม่ยุติธรรมทั้งหลายบนโลกจะถูกชำระล้างออกไป และพระเจ้าจะทรงกระทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ถูกต้อง เราจะรวมตัวกันขึ้นใหม่พร้อมกับพระเจ้าและกับทุกคนที่เรารัก นั่นคือสาสน์แห่งความหวังที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและผ่อนคลายความกลัว และยังเป็นสาสน์ที่มนุษย์ทุกคนในทุกวันนี้ต้องได้ยินด้วย