[Live]ถ่ายทอดสดรายการพิเศษ "ห้องนั่งเล่น"
ในบรรยากาศสบายๆ กับคุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร และ คุณพ่ออนุชา ไชยเดช พูดคุยกับ คนรุ่นใหม่ แอดมินเพจคาทอลิกต่างๆ บนโลกโซเชียลมีเดีย
วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2019 แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายงานอภิบาลอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ โดยมีคุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร ผู้จัดการแผนกฯ ปิดคอร์สการอบรมพระคัมภีร์หนังสือประกาศกโฮเชยาและประกาศกมีคาห์ โดยคุณพ่อวสันต์ พิรุฬห์วงศ์ วิทยากร มีผู้สนใจเข้ารับการอบรมครั้งนี้จำนวน 58 คน ณ ศูนย์อบรมคริสตศาสนธรรมระดับชาติ ซอยวัดเทียนดัด ปัจจุบันมีซิสเตอร์วรรณี ฉัตรสุภางค์ อธิการ โดยช่วงท้ายคุณพ่อวสันต์ พิรุฬห์วงศ์ มอบวุฒิบัตรให้กับผู้เข้ารับการอบรม
วันพุธรับเถ้า เริ่มต้นเทศกาลมหาพรต
วันพุธรับเถ้า เป็นวันเริ่มเทศกาลมหาพรต คือ ระยะเวลาสี่สิบวันเพื่อเตรียมสมโภชปัสกา ซึ่งเป็นวันฉลองที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญที่สุดในรอบปีของพระศาสนจักร เพราะสมโภชปัสกาเป็นการเฉลิมฉลองการที่พระเยซูเจ้าทรงรับทรมาน สิ้นพระชนม์และทรงกลับคืนพระชนม์ชีพ เพื่อกอบกู้มนุษยชาติให้คืนดีกับพระเจ้ามารับชีวิตร่วมกับพระองค์ เทศกาลนี้มีชื่อเป็นภาษาลาตินว่า “Quadragesima” ซึ่งแปลว่า “ที่สี่สิบ” (ภาษาอังกฤษเรียกเทศกาลนี้ว่า “Lent”) เป็นเทศกาลที่ครอบคลุม 6 สัปดาห์ในพระศาสนจักรตะวันตก (ยุโรป หรือ 7 สัปดาห์ในพระศาสนจักรตะวันออก โดยเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์แรกของเทศกาลมหาพรต
ชาวอิสราเอลในปัจจุบันนี้ก็ยังฉลองปัสกาทุกปี เพื่อระลึกถึงการอพยพออกจากประเทศอียิปต์ การที่พระเจ้าทรงกระทำพันธสัญญากับพวกเขาให้เป็นประชากรของพระองค์ และระลึกถึงการเดินทางผ่านถิ่นทุรกันดารเพื่อเข้าในดินแดนแห่งพระสัญญา ในขณะที่คริสตชนฉลองปัสกาเพื่อระลึกถึงการผ่านจากความตายเข้าสู่ชีวิตพร้อมกับองค์พระคริสต์เจ้า ดังนั้น ในเทศกาลมหาพรตซึ่งเป็นการเตรียมสมโภชปัสกานี้พระศาสนจักรจึงย้ำถึงความจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตโดยการกลับใจละทิ้งบาป และกิจการชั่วร้ายต่างๆ ที่ทำให้เราเหินห่างจากพระเจ้า จะได้หันกลับมาหาพระองค์เพื่อรื้อฟื้นชีวิตใหม่ในพระคริสตเจ้าให้เข้มแข็งยิ่งๆ ขึ้นทุกปี เทศกาลมหาพรตจึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับการเตรียมตัวคริสตชนสำรอง เพื่อรับศีลล้างบาปในคืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองปัสกาที่พระเยซูคริสตเจ้าทรงมีชัยชนะต่อบาป และความตายกลับคืนพระชนม์ชีพนอกจากนั้นยังเป็นโอกาสที่พระศาสนจักรจะอภัยบาปแก่คริสตชนที่ทำบาปหนัก และต้องการจะคืนดีกับพระเจ้าและพระศาสนจักร เพราะฉะนั้นเทศกาลมหาพรตจึงเป็นระยะเวลาที่คนบาปเช่นนี้แสดงการกลับใจ โดยปฏิบัติกิจใช้โทษบาปที่พระศาสนจักรกำหนดให้ กิจการที่ว่านี้ได้แก่การอธิษฐานภาวนาการให้ทานและการจำศีลอดอาหาร
การจำศีลอดอาหารเพื่อเตรียมฉลองปัสกานี้แต่เดิมถือกันเพียงสองหรือสามวันก่อนสมโภชปัสกาเท่านั้น ตามที่เราทราบจากงานเขียนของ Eusebius นักประวัติศาสตร์พระศาสนจักรที่บอกว่า นักบุญอิเรเนโอในปลายศตวรรษที่ 2 กำหนดไว้เช่นนี้ แต่ต่อมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 4 เมื่อมีการกำหนดเทศกาลมหาพรตเพื่อเตรียมฉลองปัสกาขึ้นโดยเฉพาะ ระยะเวลาการจำศีลก็ขยายออกไปถึง 40 วันตลอดเทศกาลมหาพรต และปฏิบัติอย่างเคร่งครัด กินอาหารอิ่มได้เพียงวันละมื้อเดียวเท่านั้น เพื่อระลึกถึงการจำศีลอดอาหารของโมเสสของประกาศกเอลียาห์และของพระเยซูเจ้า แต่เนื่องจากคริสตชนมีธรรมเนียมไม่จำศีลอดอาหารในวันอาทิตย์ (และวันเสาร์ด้วยในพระศาสนจักรตะวันออก) วันจำศีลอดอาหารในเทศกาลมหาพรต 6 สัปดาห์ (หรือ 7 สัปดาห์ในพระศาสนจักรตะวันออก) จึงเหลือจริงเพียง 36 วัน และต้องเพิ่มวันจำศีลในวันธรรมดาก่อนอาทิตย์แรกในเทศกาลมหาพรตอีก 4 วัน คือวันพุธ พฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์ให้ครบ 40 วัน เทศกาลมหาพรตจึงเลื่อนมาเริ่มในวันพุธซึ่งเป็นวันธรรมดา แทนที่จะเริ่มในวันอาทิตย์แรกของเทศกาลเช่นเดียวกับในเทศกาลอื่นๆ
Tuesday 8th Week of Ordinary Time
Reflections
Sirach 35:1-12, Mark 10:28-31
Losses and gains
There is a cost for being a disciple of Jesus. How much are we willing to let go of our old ways in this journey of discipleship?
In today’s Gospel, Peter asked Jesus, “What about us? We left everything and followed you. What would we gain?”
2nd March 2019
Saturday 7th Week of Ordinary Time
Reflections
Sirach 17:1-15, Mark 10:13-16
"Child-likeness"
We all struggle with Jesus’ invitation to go back to being like little children. We are called to become like little children with a child-like attitude of trusting in God, our Father, and to let go of our fears and resistance to trusting God.
Into your hands I commend my soul:
I offer it to you with all the love of my heart,
for I love you, Lord, and so need to give myself,
to surrender myself into your hands without reserve,
and with boundless confidence,
for you are my Father.” (Bl. Charles de Foucauld)
28th February 2019
Thursday 7th Week of Ordinary Time
Reflections
Sirach 5:1-8, Mark 9:41-50
"Be seasoned with salt in the path of following Christ!"
Jesus invites us to be seasoned daily with the salt of a true loving relationship with God and with one another. We are called to be salty Christians who bring the flavour of God’s love to our families, friendships and communities, so that we can be at peace with one another.